เยอรมนี ออสเตรีย เช็ก ฮังการี 8 วัน

เยอรมนี ออสเตรีย เช็ก ฮังการี 8 วัน
มิวนิค – ปราสาทนอยชวานสไตน์ – ฮัลล์สตัทท์ – ซาลส์บูร์ก  เชสกี้ ครุมลอฟ – ปราก – เวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์– บูดาเปสต์ พิเศษ!! ล่องเรือชมแม่น้ำดานูบ

วันแรก สนามบินสุวรรณภูมิ – ดูไบ17.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 แถว T สายการบินเอมิเรตส์ (EK) พบเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก

20.35 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK373 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)

วันที่สอง ดูไบ – มิวนิค – ปราสาทนอยชวานสไตน์ – มาเรียนพลัทซ์ – อัลลิอันซ์ อารีน่า

00.50 น. แวะเปลี่ยนเครื่องที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
03.30 น. ออกเดินทางสู่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 53 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

07.10 น. เดินทางถึง สนามบินมิวนิค ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้วออกเดินทางไปยังจุดหมายแรกที่เมือง โฮเฮนชวานเกา (Hohenschwangau) หมู่บ้านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของเมืองชวานเกา จากเมืองโฮเฮนชวานเกาคณะนั่งรถบัสต่อไปยังปราสาทแลนด์มาร์กของเยอรมนี ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein) สิ่งก่อสร้างที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามมากที่สุดอีกแห่งของโลก ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มามิวนิค และก็มีไม่น้อยที่ตั้งใจมามิวนิคเพื่อมาเยือนปราสาทแห่งนี้โดยเฉพาะ นอยชวานชไตน์ตั้งอยู่ในแถบเทือกเขาแอลป์ และก็ตั้งอยู่บนเชิงผาสูงกว่า 200 เมตร ที่สำคัญคือยังเป็นต้นแบบปราสาทเทพนิยายของวอลดีสนีย์ด้วย โดยความหมายของ “Neuschwanstein” แล้ว “neu” คือ “new” หมายถึง “ใหม่” “schwan” คือ “swan” หมายถึง “หงส์” ส่วน “stein” ก็คือ “stone” หมายถึง “หิน” รวมแล้วนี่คือปราสาทหงส์หลังใหม่ที่สวยงามมากจริงๆ

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร


เดินทางไปยัง เมืองมิวนิค (Munich) เมืองเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาก เพราะถือเป็นศูนย์รวมความน่าสนใจ ความสวยงามของศิลปะ โบราณสถาน สถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ที่สำคัญครบถ้วนทุกด้าน เที่ยวชมไฮไลท์เด่นของเมืองไม่ว่าจะเป็น อลิอันซ์ อารีน่า (Alilanz Arena) สนามฟุตบอลที่ได้รับฉายาว่าเป็น “เรือยาง” ด้วยรูปร่างลักษณะที่ดูจะคล้ายเรือยางจริงๆ สามารถจุผู้เข้าชมได้มากถึงประมาณ 70,000 ที่นั่ง และใช้เป็นสนามสำหรับการซ้อมและแข่งของทีมชาติเยอรมนี นอกจากจะเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลกแล้วอลิอันซ์ อารีน่ายังมีสีสันจากการเปลี่ยนสีไปมาได้เพราะสร้างจากวัสดุชนิดเดียวกับที่ใช้ในการสร้างยานอวกาศขององค์การนาซ่าอีกด้วย ชม โอลิมปิกทาวเวอร์ (Olympic Tower) หอคอยสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ที่สูงถึง 291 เมตร โดดเด่นเหนือเมืองมิวนิค ด้านบนเป็นทั้งจุดชมวิวแบบ 360 องศา ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ มาเรียนพลัสซ์ (Marienplatz) จัตุรัสกลางใจเมืองในเขตเมืองเก่าที่เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการทำความรู้จักกับมิวนิค ปัจจุบันที่เห็นเป็นเหมือนพื้นที่สำหรับงานพิธีต่างๆ ที่สำคัญของเมือง ที่บริเวณจัตุรัสมาเรียนพลัสซ์นี้เองที่เราจะได้เห็น ศาลาว่าการใหม่ (New Town Hall) ที่ได้ใช้ทำการแทนศาลาว่าการเก่าตั้งแต่ปี 1874 เห็นได้ง่ายด้วยหอคอยแหลมสูงและการออกแบบและตกแต่งอย่างประณีตไม่แพ้ปราสาทหรือพระราชวังเลย แล้วก็ไม่พลาดที่จะไปชม ศาลาว่าการเก่า (Old Town Hall) ที่ก็ได้ตั้งอยู่ในบริเวณจัตุรัสมาเรียนพลัสซ์นี้เอง อาคารสีขาวสะอาดหลังนี้เป็นศาลาว่าการของเมืองมิวนิคมาตั้งแต่ปี 1310 แม้จะผ่านมากว่า 700 ปี แต่ก็ยังสวยและสง่าด้วยศิลปะสไตล์โกธิค

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ โรงแรม Feringapark Hotel หรือระดับเดียวกัน

วันที่สาม มิวนิค – ฮัลล์สตัทท์ – ซาลส์บูร์ก – สวนมิราเบล – บ้านเกิดโมสาร์ท

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ออกเดินทางสู่ เมืองฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) ประเทศออสเตรีย เมืองมรดกโลกเก่าแก่อายุกว่า 4,000 ปี และก็มีความเจริญรุ่งเรืองเกิดขึ้นมากในช่วงประมาณเกือบพันปีที่ผ่านมา เมืองนี้สวยและมีเอกลักษณ์สำคัญอยู่ที่การเป็นเมืองติดทะเลสาบและรายล้อมด้วยภูเขาสูง มีความสวยงามของทัศนียภาพราวกับภาพวาดและก็เป็นที่สุดของการมีบรรยากาศที่โรแมนติก ฉายาที่บ่งบอกถึงความสวยงามล้ำค่าของฮัลล์สตัทท์ก็คือ “ไข่มุกแห่งออสเตรีย” และสุดท้ายก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์โดยองค์การยูเนสโก้ในปี 1997 นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมความสวยงามของเมืองฮัลล์สตัทท์ เดินเล่นถ่ายภาพ ชมโบสถ์ประจำเมือง ถ่ายรูปสวยๆ ที่ เซ็นทรัลมาร์เก็ตสแควร์ (Central Square Marktplatz) จัตุรัสกลางเมืองที่โดดเด่นด้วยรูกปั้นโฮลี่ทรินิตี้ เป็นเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลต่างๆ ด้วย ชม โบสถ์พาริช (Parish Church) โบสถ์สวยริมทะเลสาบแห่งนี้มีอายุกว่า 500 ปีแล้วแต่ก็เป็นไฮไลท์สวยๆ ของเมืองที่พลาดไม่ได้

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

ออกเดินทางต่อสู่ ซาลส์บูร์ก เมืองใหญ่อันดับ 4 ของออสเตรียที่แสนจะโรแมนติก ทั้งยังเต็มไปด้วยความสวยงามและคลาสสิก ความอลังการทางประวัติศาสตร์ทำให้ซาลส์บูร์กได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1996 ซาลซ์บูร์กมีความสวยงามของแนว “แม่น้ำซาลซ์แซค” (Salzach River) สีเขียวมรกตไหลผ่านซึ่งถือเป็นแม่น้ำสายหลักของออสเตรียที่ไหลผ่านไปจนถึงเยอรมนี เที่ยวชม เข้าชม สวนมิราเบล (Mirabell Garden) สวนสวยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ พระราชวังมิราเบล (Mirabell Palace) แม้จะเป็นสวนเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1690 แต่ก็ยังคงความสวยงามและเสน่ห์ของสวยสไตล์บารอกไว้ได้ไม่คลาย แล้วก็แวะไปชม บ้านเกิดโมสาร์ท นักประพันธ์ชื่อก้องโลก บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บน ถนนเกไทรย์เดอกาสเซอ (Getreidegasse) ถนนย่านการค้าสำคัญของเมืองที่เคยพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่ต่างก็หอบเอาสินค้าของตัวเองมาแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน ปัจจุบันย่านนี้ก็ยังพลุกพล่านไปด้วยผู้คนเช่นเดิม เพราะถนนเกไทรย์เดอกาสเซอเป็นถนนสายช้อปปิ้งชื่อดังที่ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไหนยี่ห้ออะไรก็สามารถหาซื้อได้จากถนนสายนี้ เป็นอีกแหล่งข้อปปิ้งที่ขาช้อปพลาดไม่ได้

เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก Austria Trend Hotel Salzburg West หรือระดับเดียวกัน

วันที่สี่ ซาลส์บูร์ก – เชสกี้ ครุมลอฟ – ปราก

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางออกจากเมืองซาลส์บูร์ก เพื่อไปเที่ยวกันต่อที่ เมืองเชสกี้ ครุมลอฟ (Cesky Krumlov) เมืองเล็กๆ ที่ถูกล้อมด้วยแม่น้ำวัลตาวาโดยมีอดีตเป็นที่ตั้งชุมชนเก่าแก่และตกทอดให้เห็นหลักฐานเป็นอาคารหลายร้อยหลังที่สร้างกันมาตั้งแต่ช่วงยุคกลาง เชสกี้ ครุมลอฟ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกด้านการวางผังเมืองจากยูเนสโก้ไปเมื่อปี 1992 ถ่ายรูปบริเวณ ปราสาทครุมลอฟ (Cesky Krumlov Castle) ที่สร้างขึ้นเมื่อประมาณศตวรรษที่ 13 และก็เคยเป็นสมบัติของขุนนางใน 3 ตระกูล ปัจจุบันตกเป็นสมบัติของรัฐบาลสาธารณรัฐเช็กเป็นที่เรียบร้อย ด้านบนยอดหอคอยปราสาทเป็นจุดชมวิวที่สวยมากจุดหนึ่งเลย จะได้เห็นสภาพเมืองเชสกี้ ครุมลอฟได้ชัดเจนขึ้น ทั้งแม่น้ำวัลตาวาล้อมคดเคี้ยวเป็นรูปตัวเอส (S) ตัวเมืองมีอาคารและปราสาทปะปนสลับกันไปมา ละลานตาไปด้วยสีส้มอิฐของหลังคาทั่วเมืองนั้นงดงามอย่างที่สุด

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

แล้วก็ได้เวลาที่หลายๆ คนรอคอย อิสระช้อปปิ้ง ที่สามารถเดินช้อปปิ้งได้อย่างจุใจไปกับร้านค้ามากมายตามซอกซอยมากมายตามเมือง ก่อนจะได้เวลาเดินทางไปยังจุดหมายถัดไปที่เมือง ปราก (Prague)

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Hotel International Prague หรือระดับเดียวกัน

วันที่ห้า ปราก – ปราสาทปราก – มหาวิหารเซนต์วิตัส – วิหารเซนต์จอร์จ – เวียนนา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม


พร้อมเที่ยวชมเมือง ปราก (Prague) เมืองแสนโรแมนติกท่ามกลางหมู่ปราสาทเก่าอายุเกินพันปีซึ่งโดดเด่นด้วยศิลปะโกธิกและมีอยู่เยอะมากจนทำให้ปรากได้ฉายาว่าเป็น “เมืองแห่งปราสาทร้อยยอด” ได้ชมร่องรอยของอารยธรรมในยุคที่อาณาจักรโบฮีเมียและอาณาจักรโมราเวียยังเรืองรอง เที่ยวปรากต้องชม ปราสาทปราก (Prague Castle) เพื่อเป็นการทักทายสิ่งก่อสร้างที่เป็นหน้าเป็นตาของเมือง ปราสาทหลังนี้สร้างตั้งแต่ปี 885 ใหญ่และอลังการมาก ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่ทำงานของประธานาธิบดีของสาธารณรัฐเช็กและเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ภายในปราสาทปรากยังเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารเซนต์ไวตัส (St. Vitus Cathedral) มหาวิหารของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ถือได้ว่าใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของประเทศ จุดเด่นคือหอคอยหลักที่สูงถึง 96.5 เมตร และหอคอยคู่ที่ด้านหน้าก็สูงถึง 82 เมตร ส่วน สะพานชาร์ลส์ (Charles Bridge) อีกหนึ่งจุดหมายของเรานั้นโดดเด่นเห็นชัดว่ามีรูปปั้นนักบุญเรียงตลอดความยาวของสะพาน และเป็นสิ่งก่อสร้างชิ้นสำคัญที่ชี้ให้คนยุคปัจจุบันเห็นได้ถึงความรุ่งเรืองในยุคสมัยของจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 4 และที่ใจกลางเมืองปรากเราจะได้เห็น หอนาฬิกาดาราศาสตร์ (Town Hall Clock) ซึ่งคอยทำหน้าที่บอกเวลาให้กับชาวเมืองทุกวี่วัน หอนาฬิกาดาราศาสตร์ถูกสร้างขึ้นในปี 1410 นอกจากเข็มนาฬิกาที่คอยบอกเวลาแล้วตัวเรือนสีฟ้ายังมีรูปปั้นนักบุญ ตัวเรือนนาฬิกาแสดงการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ แสดงเดือนปัจจุบัน เมื่อเวลาเดินมาครบชั่วโมงจะมี เสียงระฆังดังกังวานและรูปปั้น 12 สาวกของพระเยซูคริสต์ที่พากันเดินขบวนกันอยู่หลังช่องหน้าปัด

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

เดินทางต่อไปยัง เวียนนา (Vienna) ประเทศออสเตรีย เมืองที่ทั้งน่าอยู่และน่าเที่ยวด้วยการเป็นดินแดนที่มากด้วยคุณภาพของสภาพบ้านเมืองและคุณภาพชีวิตประชากรในเมืองหลวงของประเทศ และสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราเวียนนาเลอค่าเสมือนราชินีแห่งยุโรปอย่างที่ใครๆ ว่ากันไว้จริงๆ สวยทุกมุมมอง

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Kavalier หรือระดับเดียวกัน

วันที่หก เวียนนา – พระราชวังเชินบรุนน์ – ปาร์นดอฟ เอ้าเล็ต – บูดาเปสต์

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม


เที่ยวชมเมืองเวียนนา ไม่พลาดไฮไลท์เด่นของเมือง เข้าชมภายใน พระราชวังเชินบรุนน์ (Schonbrunn Palace) ในอดีตเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ฮับส์บูร์ก เป็นสถานที่รวบรวมผลงานทางศิลปะการตกแต่งชั้นเยี่ยมจำนวนมาก พระราชวังสไตล์บาโรคแห่งนี้้มีจำนวนห้องมากถึง 1,441 ห้อง ใหญ่โต สง่างามและอลังการด้วยศิลปะสไตล์บารอก นอกจากตัวพระราชวังที่สวยงามมากแล้ว สวนขนาดใหญ่ก็น่าเดินเที่ยวไม่แพ้กันเลย ปัจจุบันได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก
ออกเดินทางต่อไปยัง ปาร์นดอฟ (Parndof)

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
**อิสระช้อปปิ้งแบบเต็มที่ เอาท์เลทแมคอาเธอร์ เกลน ปาร์นดอฟ (McArthur Glen Outlet Parndof) เอาท์เลทที่เน้นแบรนด์เนมในราคาสุดพิเศษ และก็มีแบรนด์เนมมากมายให้ช้อปกันทั้งวัน เช่น Gucci Burberry, Benetton, Calvin Klein, Crocs, Guess, Lacoste, Diesel และอีกมากมาย
ออกเดินทางสู่เมือง บูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก ณ Park Inn by Radisson Budapest หรือระดับเดียวกัน

วันที่เจ็ด บูดาเปสต์ – สะพานเชน – สะพานอลิซาเบธ – ปราสาทบูดา – ล่องเรือแม่น้ำดานูบ

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เที่ยวชม บูดาเปสต์ เมืองหลวงของฮังการีและเมืองชื่อดังอีกแห่งของยุโรป ศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและการเมืองของประเทศที่มีอายุมากว่าร้อยปีแล้ว แวะชมและถ่ายรูปกับหนึ่งในสะพานที่สวยงามของเมืองบูดาเปสต์ สะพานเชน (Chain Bridge) สะพานถาวรแห่งแรกที่สร้างขึ้นเหนือแม่น้ำดานูบ และก็เป็นสะพานที่สวยงามน่าชมน่ามองไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน มีความยาวถึง 375 เมตร มีรูปสลักสิงโตแทนการเฝ้าอารักขาสะพานไว้ทั้งสองฝั่งของสะพาน จากสะพานที่เก่าที่สุดเราข้ามไปชมสะพานที่ใหม่ที่สุดของเมืองบูดาเปสต์กันที่ สะพานอลิซาเบธ (Elisabeth Bridge) เป็นสะพานแขวนขนาด 6 เลน มีความยาว 290 เมตร จุดเด่นคือที่ปลายสะพานด้านบูดาจะมีรูปปั้นบรอนซ์ของราชินีอลิซาเบธแห่งบาวาเรียตั้งอยู่ พิเศษ ล่องเรือชมแม่น้ำดานูบแบบส่วนตัว โดยจะล่องไปตามแม่น้ำสายใหญ่ ชมอาคารบ้านเรือนสถาปัตยกรรมริมสองฝั่งแม่น้ำ เราจะได้เห็นทั้งวิวสวยๆ โดยเฉพาะ สะพานเชนและ อาคารรัฐสภาแห่งฮังการี (Hungary Parliament) ที่ได้ชื่อว่าเป็นอาคารรัฐสภาที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ทันทีที่เห็นบอกได้เลยว่านี่คืออาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดเท่าที่เคยสัมผัสมา รูปแบบนั้นโดดเด่นเพราะออกแบบสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิก และมีจำนวนห้องมากถึง 700 ห้องเลยทีเดียว

ได้เวลาอันสมควรนำทุกท่านเดินทางสู่สนามบิน เดินทางกลับประเทศไทย

14.40 น. ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 112 แวะเปลี่ยนเครื่อง (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
23.05 น. ถึงสนามบิน เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

วันที่แปด ดูไบ – กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ
03.05 น. เดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK 384
(บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
12.05 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิ์ภาพพร้อมความประทับใจ

อัตราค่าบริการ​

วันเดินทาง ราคา
กุมภาพันธ์ 24 ก.พ.-3 มี.ค. 61 39,900
มีนาคม 1-8, 6-13, 7-14, 13-20, 19-26, 21-28 มี.ค.

31 มี.ค.-7 เม.ย. 61

เมษายน 6-13 เม.ย.

25 เม.ย.-2 พ.ค., 26 เม.ย.-3 พ.ค.

28 เม.ย.-5 พ.ค.

พฤษภาคม 3-10 พ.ค., 26 พ.ค.- 2 มิ.ย., 27 พ.ค.-3 มิ.ย.
Songkarn Festival 10-17 เม.ย., 11-18 เม.ย.,

12-19 เม.ย., 13-20 เม.ย.,

49,900

​​

เด็ก (อายุไม่เกิน 12 ปี) ไม่มีเตียง​ลดท่านละ​ 2,000​ บาท

​​พักเดี่ยว ​​​​เพิ่มท่านละ​ 10,000 ​บาท

อัตรานี้รวม
✓ ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรไป-กลับ โดยสายการบินเอมิเรตส์ (EK)
✓ ค่าที่พักระดับมาตรฐาน (ห้องละ 2-3 ท่าน) ตามที่ระบุในรายการ
✓ ค่ารถปรับอากาศ และบริการนำเที่ยวตามที่ระบุในรายการ
✓ ค่าเข้าชมสถานที่ และค่าธรรมเนียมตามที่ระบุในรายการ
✓ ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
✓ ค่าประกันภัยในการเดินทาง 2,000,000 / 500,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)

อัตรานี้ไม่รวม

✗ ค่าธรรมเนียมในการขอยื่นวีซ่ากลุ่มเชงเก้น ทางสถานทูตจะไม่คืนเงินค่าธรรมเนียมทุกกรณี
✗ ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% กรณีต้องการใบเสร็จ (เฉพาะในกรณีกรุ๊ปเหมาหรือตัดกรุ๊ปเท่านั้น)
✗ ค่าน้ำหนักของกระเป๋าในกรณีเกินกว่าสายการบินกำหนดให้ 30 กิโลกรัมต่อหนึ่งคน
✗ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ นอกรายการ อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด และค่าเครื่องดื่มในห้องพัก
✗ ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถท้องถิ่น ท่านละ 2 ยูโร / คน / วัน
✗ ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ขั้นต่ำ 100 บาท / วัน / คน (100 * 6 วัน)

เงื่อนไขในการจองทัวร์

1. สำหรับการจอง กรุณาชำระเงินมัดจำท่านละ 20,000 บาท (หลังจองภายใน 3 วัน) พร้อมสำเนาหนังสือเดินทาง
2. ชำระยอดทั้งหมดก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 30 วัน
3. หากไม่ชำระค่าใช้จ่ายภายในกำหนด ทางบริษัทจะถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ

การยกเลิกและคืนค่าทัวร์

1.​ยกเลิกก่อนการเดินทาง 45 วันขึ้นไป คืนมัดจำทั้งหมด
2.​ยกเลิกก่อนการเดินทาง 30 วันขึ้นไป เก็บค่าใช้จ่ายเบื้องต้น 5,000 บาท
3.​ยกเลิกก่อนการเดินทาง 25-30 วัน เก็บเงินมัดจำทั้งหมด
4.​ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15-25 วัน เก็บค่าใช้จ่าย 50% ของราคาค่าทัวร์ทั้งหมด
5.​ยกเลิกก่อนการเดินทางน้อยกว่า 15 วัน ขอเก็บค่าใช้จ่าย 100% ของราคาค่าทัวร์ทั้งหมด

หมายเหตุ

  1. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกการเดินทางก่อนล่วงหน้าในกรณีที่ผู้เดินไม่ถึง 30 ท่าน และทางบริษัทยินดีคืนเงินโดยหักเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามจริง
  2. บริษัทขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัย และไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์ เช่นภัยธรรมชาติ ปัญหการเมือง เป็นต้น
    3. เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆ หรือถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณ
    4. เมื่อท่านได้ชำระเงินมัดจำหรือทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านตัวแทนของบริษัทหรือชำระโดยตรงกับทางบริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและยอบรับเงื่อนไขต่างๆ ของบริษัทฯที่ได้ระบุไว้โดยทั้งหมด

เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นวีซ่า

1. พาสปอร์ตที่ยังไม่หมดอายุ และมีอายุไม่ต่ํากว่า 6 เดือน ก่อนวันหมดอายุ หากมีพาสปอร์ตเล่ม

เก่า ไม่ว่าจะเคยมีวีซ่าในกลุ่มเชงเก้นหรือไม่ก็ตาม ควรนําไปแสดงด้วยเพื่อเป็นการง่ายต่อการอนุมัติวีซ่า

2. รูปถ่ายสีขนาด 2 นิ้ว (แบบหน้าใหญ่) ขนาด 4.5 ซม. x 3.5 ซม.

จํานวน 2 ใบ (ฉากหลังเป็นสีขาวเท่านั้นและมีอายุไม่เกิน 6 เดือน)

3. เอกสาระสำคัญส่วนบุคคล

3.1 ทะเบียนบ้านตัวจริงและสำเนา พร้อมแปลภาษาอังกฤษ

3.2 สําเนาบัตรประชาชน หรือ สําเนาบัตรข้าราชการ

3.3 สําเนาทะเบียนสมรส พร้อมแปลภาษาอังกฤษ (ถ้ามี)

3.4 สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล พร้อมแปลภาษาอังกฤษ (ถ้ามี)

4. กรณีเป็นพนังงานบริษัท

ใบรับรองการทํางานจากบริษัทที่ท่านทํางานอยู่ต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น โดยระบุตําแหน่ง อัตราเงินเดือนในปัจจุบัน วันเดือนปีที่เริ่มทํางานกับบริษัทนี้ และช่วงเวลาที่ขอลางาน เพื่อเดินทางไปยุโรป หลังจากนั้นจะกลับมาทํางานตามปกติหลังครบกําหนด

5. กรณีเป็นเจ้าของกิจการ

ขอใบทะเบียนการค้า และหนังสือรับรองที่คัดไว้ไม่เกิน 3 เดือน พร้อมวัตถุประสงค์หรือใบเสียภาษีและหลักฐานการเงินของบริษัทฯ ย้อนหลัง 6 เดือน

6. หลักฐานทางการเงิน

สําเนาสมุดบัญชีเงินฝาก ออมทรัพย์ ย้อนหลัง 3 เดือน (นับจากวันปัจจุบันในวันที่ยื่นวีซ่า) ควรเลือกเล่มที่มีการเข้าออกของเงินสม่ําเสมอ และมีจํานวนไม่ต่ํากว่า 6 หลัก เพื่อแสดงให้เห็นว่ามี ฐานะการเงินเพียงพอ ที่จะครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และสามารถที่จะใช้จ่ายได้อย่างไม่เดือดร้อน เม่ือกลับสู่ภูมิลําเนา

หรือ Statement ย้อนหลัง 3 เดือน ฉบับจริง ภาษาอังกฤษ ออกโดยธนาคารเท่านั้น

**สถานทูตไม่รับพิจารณาบัญชีกระแสรายวัน**

7. กรณีที่บริษัทของท่านเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับผู้เดินทางทั้งหมด นอกเหนือจากเอกสารข้อ 1-6 แล้ว ทางบริษัทฯ จะต้องออกจดหมายอีกหนึ่งฉบับเพื่อแสดง ความรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายและการกลับมาทํางานของท่าน โดยระบุรายชื่อผู้เดินทาง และเหตุผลที่จัดการเดินทางนี้ในจดหมายด้วย8. กรณีที่เป็นนักเรียน นักศึกษา

จะต้องมี หนังสือรับรองจากทางสถาบันการศึกษา ภาษาอังกฤษ (ตัวจริง) เท่าน้ัน

9. กรณีที่เด็กอายุต่ํากว่า 20 ปี

9.1 ไม่ได้เดินทางไปกับบิดาหรือมารดา (คนใดคนหนึ่ง)

– จดหมาย ยินยอมให้เดินทางไปต่างประเทศจาก อำเภอ / เขต ที่ท่านอยู่

– บัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของบิดา / มารดา

– สำเนาพาสปอร์ตบิดา / มารดา

– หลักฐานการทำงาน บิดา / มารดา (ภาษาอังกฤษ)

– หลักฐานการเงินของ บิดา / มารดา (ภาษาอังกฤษ)

9.2 เดินทางไปกับบิดาหรือมารดาเพียงคนใดคนหนึ่ง

– จดหมาย ยินยอม โดยที่บิดา, มารดา และบุตรจะต้องไปยื่นเรื่องแสดงความจํานงค์ในการอนุญาตให้บุตร เดินทางไปกับอีกท่านหนึ่งได้ ณ ที่ว่าการอําเภอหรือเขต โดยมีนายอําเภอหรือผู้อํานวยการเขต ลงลายมือชื่อและประทับตรารับรองจากทางราชการอย่างถูกต้อง

10. รายละเอียดเกี่ยวกับชื่อ, นามสกุล, วันเดือนปีเกิด,ญาติพี่น้อง,สถานที่เกิดและจํานวนบุตรของผู้เดินทาง

11. การบิดเบือนข้อเท็จจริงประการใดก็ตามอาจจะถูกระงับมิให้เดินทางเข้าประเทศในกลุ่มเชงเก้น เป็นการถาวร และถึงแม้ว่าท่านจะถูกปฏิเสธวีซ่า สถานทูตไม่คืนค่าธรรมเนียมที่ได้ชําระไปแล้ว และหากต้องการขอยื่นคําร้องใหม่ก็ต้องชําระค่าธรรมเนียมใหม่ทุกครั้ง หากสถานทูตมีการสุ่ม เรียกสัมภาษณ์บางท่าน ทางบริษัทฯ ขอความร่วมมือในการเชิญท่านไปสัมภาษณ์ตามนัดหมาย และโปรดแต่งกายสุภาพ ทั้งนี้บริษัทฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปอํานวยความสะดวกและประสานงาน ตลอดเวลาและหากสถานทูตขอเอกสารเพิ่มเติมทางบริษัทใคร่ขอรบกวนท่านจัดส่งเอกสาร ดังกล่าวเช่นกัน

12. กรณียกเลิกการเดินทางภายหลังจากได้วีซ่าแล้ว ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการแจ้งสถานทูตเพื่อให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานฑูตเรื่องวีซ่าของท่านเนื่องจากการขอวีซ่าในแต่ละประเทศจะถูก บันทึกไว้เป็นสถิติในนามของบริษัท

13. การยื่นวีซ่านั้นผู้เดินทางต้องชําระยอดมัดจําท่านละ 20,000 ต่อท่านก่อนเท่านั้นถึงสามารถดําเนินขั้นตอนการย่ืนวีซ่าได้

 

Comments

comments